การดูดไขมัน ด้วยนวัตกรรมใหม่ Vaser-Liposuction
วิธีลดน้ำหนักและขจัดไขมันส่วนเกินมีอยู่หลายวิธี คือ
1. การควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ได้ผลดีถ้าทำสม่ำเสมอ แต่อาจมีผลน้อยมากต่อ
ไขมันและเซลลูไลท์สะสมในบางตำแหน่งเช่น หน้าท้อง เอว ใต้คาง ต้นแขน ต้นขา สะโพกและน่อง ซึ่งลดได้ยาก
.
2. การรับประทานยาลดความอ้วน
ออกฤทธิ์ด้วยการยับยั้งความหิว แต่แม้ว่าจะพยายามลดน้ำหนักจนหน้าตาซูบเซียว ไขมันในบางส่วนก็ยังคงอยู่ และเมื่อหยุดยาก็มีโอกาสที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว (yo-yo effect) เนื่องจากเซลไขมันยังมี จำนวนเท่าเดิมเพียงแต่ลดขนาดลงเท่านั้น นอกจากนี้ อาจมีอาการบางอย่างที่เป็นผลจากการใช้ยานั้น เช่น ปวดหัว ใจสั่น เหนื่อยง่าย หรือนอนไม่หลับ เป็นต้น
3. การดูดไขมันและการผ่าตัด
การดูดไขมัน (liposuction) เป็นวิธีที่ได้ผลค่อนข้างดีในการลดไขมันเฉพาะส่วน ด้วยเทคนิคใหม่ในปัจจุบัน (tumescent technique) ทำให้มีความปลอดภัย พบภาวะแทรกซ้อน และเจ็บปวดน้อย มีข้อดีกว่าวิธีอื่นๆ คือ ไขมันยุบได้มากและรวดเร็วทันใจ ส่วนการผ่าตัดไขมันหน้าท้อง (lipectomy) นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่อ้วนมากและหน้าท้องย้อย โดยจะลงแผลผ่าตัดต่ำกว่าแนวบีกีนีซึ่งจะเห็นชัดในเดือนแรกๆ การผ่าตัดไม่เจ็บมากและใช้เวลาพักฟื้นเพียงไม่กี่วัน ส่วนวิธีนวดด้วยยานั้น ได้ผลเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะดีในพวกเซลลูไลท์มากกว่าจะสลายไขมันได้
นวัตกรรมใหม่ Vaser Lipo
เวเซอร์ (VASER ) คือ เทคโนโลยีในการกำจัดไขมันที่มีความปลอดภัยสูง เป็นการดูดไขมัน เฉพาะส่วนเพื่อให้ร่างกายมีสัดส่วนที่กระชับได้รูปมากยิ่งขึ้น หลักการคือ การปล่อยพลังงานคลื่นเสียง (Ultrasound) ในระดับความถี่ที่จะไปทำลายเฉพาะเจาะจงแต่กับเซลล์ไขมันในชั้นไขมันเท่านั้น ทำให้ก้อนไขมันกลายเป็นของเหลว และแพทย์สามารถดูดออกมาจากร่างกายได้โดยง่าย โดยไม่ทำให้เนื้อเยื่อ เส้นเลือด และเซลล์ประสาทบริเวณรอบๆ ได้รับความเสียหาย ช่วยลดการเกิดรอยฟกช้ำและบวมหลังการรักษา ฟื้นตัวได้เร็ว ให้ผลการรักษาที่รวดเร็วและชัดเจนในระยะ 1-2 วันหลังทำ ซึ่ง VASER ได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) และประเทศไทย (อย.) ถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย
เครื่อง Vaser ดูดไขมัน
ข้อแนะนำและผลลัพธ์หลังการดูดไขมันด้วย VASER
หลังการรักษา แพทย์จะแนะนำให้ใช้ผ้าและก็อสพันบริเวณที่ได้ทำการดูดไขมัน เพื่อช่วยลดการบวม กระชับกล้ามเนื้อ ทำให้แผลหายเร็ว และรูปร่างเข้าที่ได้เร็วขึ้น ต้องใส่สเตย์ที่กระชับประมาณ 2 เดือน หลังจากดูดไขมันด้วย VASER ประมาณ 3 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของรูปร่าง และจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังทำประมาณ 3 – 6 เดือน หลังการดูดไขมันควรงดออกกำลังกายประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นควรออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อในบริเวณที่ดูดไขมันออกมีความแข็งแรงขึ้น ทำให้รูปร่างเพรียวกระชับสมส่วนมากขึ้น
ค่าดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser
ดูดไขมัน แขน 2 ข้าง 15,000 บาท
ดูดไขมัน ท้องด้านบน 15,000 บาท
ดูดไขมัน ท้อง ด้านล่าง 15,000 บาท
ดูดไขมัน เอว 15,000 บาท
ดูดไขมัน ขา ด้านนอก 15,000 บาท
ดูดไขมัน ขา ด้านใน 15,000 บาท
ภาพก่อน-หลังการดูดไขมันต้นขา
4. ฉีดเมโสธีราปี (Mesotherapy)
เร็วๆนี้ มีการพบว่า การฉีดยาบางชนิดที่สามารถสลายเซลไขมัน เข้าไปในบริเวณนั้น จะทำให้ไขมันยุบลงได้ เรียกว่าวิธี Mesotherapy โดยการฉีดสารสกัดจากถั่วเหลือง ยา และวิตามินหลายชนิดเข้าไปยังบริเวณที่มีการสะสมของไขมัน ทำให้เกิดการขัดขวางการสะสมของไขมัน และกระตุ้นให้ไขมันสะสมถูกปล่อยออกมา เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และระบบต่อมน้ำเหลือง จึงทำให้เนื้อเยื่อโดยรอบแข็งแรงขึ้น กระชับขึ้น โดยฉีดในบริเวณที่ต้องการ เช่น ท้องแขน สะโพก ต้นขา คาง และสามารถฉีดซ้ำได้ทุกๆ 1-2 สัปดาห์ ขณะฉีดจะเจ็บน้อยมากและไม่มีผลข้างเคียง ยกเว้นอาจพบรอยช้ำเล็กน้อยในบางราย
ข้อห้ามในการทำ Mesotherapy มีดังนี้
1. สตรีมีครรภ์
2. คนไข้โรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
3. คนไข้ที่มีประวัติโรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เช่นเส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
4. คนไข้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง
5. คนไข้ที่มีประวัติโรคหัวใจ และทำการรักษาด้วยยาหลายขนาน