ปัญหาไขมันส่วนเกิน จัดเป็นปัญหาอันดับต้นๆของใครหลายๆคน เพราะการสะสมของไขมัน ในจุดที่ไม่พึงประสงค์ เช่น แก้ม คาง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก ย่อมทำให้ขาดความมั่นใจ ในการที่จะโชว์สรีระต่อหน้าคนอื่นๆสาเหตุหลักของการเกิด ไขมันส่วนเกิน ก็มาจากการรับประทานอาหาร ที่เกินพอดี โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลลอรี่สูงๆ เช่น กลุ่มแป้ง น้ำตาล ไขมัน ฯลฯ โดยไม่ได้สัดส่วนกับการเผาผลาญไขมัน เช่น จากการออกกำลังกาย โยคะ แอโรบิค ฯลฯ และเมื่อระยะเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ไขมันส่วนเกิน ก็จะสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ไขมัน ก็จะอ้วนพองใหญ่และเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รูปร่างขยายออก หรือใหญ่ขึ้นเฉพาะบางส่วนได้ วงการแพทย์ด้านความงาม ก็เลยมีหน้าที่แก้ไขปัญหาดังกล่าวของคนไข้
สลายเซลลูไลต์ด้วย Meso Fat
เซลลูไลต์เป็นปัญหาหลักของการไหลเวียนเลือดในกลุ่มหลอดเลือดขนาดเล็ก (Microcirculation) ที่ทำให้เนื้อเยื่อไขมันที่อยู่ภายใต้ผิวหนังเกิดความเสียหาย การผลัดเปลี่ยนไขมันและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดเส้นใยที่อ่อนแอ ทำให้เกิดเป็นตุ่มและเป็นรอยบุ๋มที่โดยทั่วไปจะเรียกว่า “เปลือกส้ม” ผู้หญิงจะมีไขมันใต้ผิวหนัง ในลักษณะเหมือนกับเป็นตู้ขนาดเล็กๆ ที่แบ่งกั้น โดยผนังแนวตั้งของเนื้อเยื่อ ซึ่งกรอบการทำงานจะอาศัยระบบท่อลำเลียงที่ซับซ้อนของหลอดเลือดแดง และเส้นฝอยที่ทำหน้าที่ในการหมุนเวียนและถ่ายเลือดเสีย หากระบบการไหลเวียนเลือดในกลุ่มหลอดเลือดขนาดเล็ก (Microcirculation) บกพร่องจะส่งผล ทำให้ของเหลวรั่วและซึมเข้าไปยังบริเวณรอบเนื้อเยื่อ ซึ่งการจัดเก็บของเหลวในช่องว่างตรงกลางนี้ก่อให้เกิดเป็นเซลล์ไขมัน (Adipocyte) ที่เริ่มก่อตัวเป็น ไตรกลีเซอไรด์ส่วนเกิน และมีขนาดใหญ่ขึ้น และขังอยู่ในเครือข่ายที่เกี่ยวพันกันจากผลทางด้านความงามพบว่า ทำให้เกิดการกระจายตัวของไขมันไม่สม่ำเสมอ และเกิดการทำลายเนื้อเยื่อ ซึ่งเปลี่ยนแปลงลักษณะของผิวทำให้เกิดเป็นผิวเปลือกส้ม นอกจากนี้เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน รวมถึงคอลลาเจนและอีลาสตินก็จะถูกทำลาย มากยิ่งขึ้น ในที่สุดก็จะกลายเป็น แผลเป็นทำให้ขาดความสวยงาม
หลักการทำงานของ Meso Fat
โดยเทคนิคเมโสเธอราพี (Mesotherapy) ปริมาณที่ฉีดก็แล้วแต่บริเวณที่ต้องการ โดยฉีดลึกเข้าไปในชั้นไขมันตั้งแต่ 0.1-12 มม. กลไกของการสลายไขมันด้วยการฉีดแบบ Meso Fat พบว่าตัวยาจะไปทำให้ผนังไขมัน (Fat cell wall) แตกตัวออกทำให้ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนๆ สลาย ออกเป็นไขมันเหลว (Lipid Fat) แล้วถูกขับออกทางปัสสาวะ (ส่วนมาก) และ ทางอุจจาระ
Mesofat สามารถฉีดลดไขมันที่ใดได้บ้าง
1. ลดไขมันที่แก้มให้หน้าเรียวเล็ก
2. ลดไขมันที่คาง(เหนียง)
3.ลดไขมันที่ต้นแขน ต้นขา
4. ลดไขมันที่พุง หน้าท้อง
5. ลดไขมันที่จมูก(บาน) ทำให้เล็กลง
6. ลดไขมันที่หนังตาบนหย่อนคล้อย
7. ลดไขมันที่น่อง
ข้อห้ามในการทำ Meso Fat มีดังนี้
1. สตรีมีครรภ์
2. คนไข้โรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
3. คนไข้ที่มีประวัติโรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เช่น เส้นเลือดสมองตีบหรืออุดตัน
4. คนไข้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง
5. คนไข้ที่มีประวัติโรคหัวใจ และทำการรักษาด้วยยาหลายขนาน
ข้อควรปฏิบัติหลังทำ Meso Fat มีดังนี้
1. ควรดื่มน้ำวันละอย่างน้อย 2 ลิตร เพราะไขมันเหลวที่โดนสลายด้วยการฉีด Mesofat จะถูกขับออกทางปัสสาวะเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น การดื่มน้ำมากๆ จะช่วยขับไขมัน ส่วนเกินที่สลายให้ออกจากร่างกายได้มากขึ้น
2. ช่วงที่เว้นการฉีด Mesofat แนะนำให้ทำ RF เพื่อช่วยรีดไขมันให้ออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น และทำให้กล้ามเนื้อกระชับได้มากขึ้น ลดการหย่อนคล้อยหลังฉีดนอกจากนี้ อาจจะเสริมด้วยการตีสลายไขมันด้วยเครื่อง Slimming Machine กรณีที่ไขมันเกาะตัวแน่นเกินไป
3. อาจจะพบอาการบวมช้ำ หรืออาการเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย ขณะที่ทำและหลังทำ 1-3 วัน ดังนั้น ควรเลี่ยงการ การเข้าอบซาวน่า การนวด การดื่มอัลกอฮอล์ หรือ การทำทรีทเม้นต์ใดๆ หลังทำประมาณ 1 อาทิตย์ เพื่อลดการฟกช้ำให้น้อยลง
4. ควรออกกำลังกายเบาๆ หลังทำ เช่น การเดินเร็ว โยคะ หรือแอโรบิค อย่างน้อยวันละ 30-45 นาที อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ และรีดไขมันให้ออกจาก ร่างกายได้เร็วขึ้น ลดการสะสมของไขมันใหม่
5. เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก และไขมันส่วนเกิน มิให้กลับมาสะสมได้อีก เพราะการสลายไขมันด้วยการทำ Mesofat จะไร้ประโยชน์ ถ้า ไม่ปรับพฤติกรรมนิสัยการรับประทานอาหาร และมีวินัยในการควบคุมน้ำหนัก ให้มากขึ้น
สุดท้ายนี้เราควรเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนัก และไขมันส่วนเกิน มิให้กลับมาสะสมได้อีก เพราะการสลายไขมันด้วยการทำ Mesofat จะไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ปรับพฤติกรรมนิสัยการรับประทานอาหาร และมีวินัยในการควบคุมน้ำหนัก ให้มากขึ้น
การฉีด Mesofat ราคาจุดละ 2,000 บาท