การร้อยไหมรุ่นใหม่ PCL (K2 Lift)
เทคนิคเกาหลียกกระชับผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย
ทำโดยศัลยแพทย์ผู้มีประสบการณ์
ผลอยู่ได้นานหลายปี
แฟชั่นเทรนด์รูปหน้าในแต่ละยุคสมัย มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน ซึ่งความชอบหรือค่านิยม ในแต่ละยุคก็ไม่เหมือนกัน เหล่ากูรูด้านความงามทั้งหลาย ต้องปรับตามให้ทัน เพื่อให้ลุคเราดูทันสมัยและดูไม่ล้าหลัง โดยเฉพาะแพทย์ที่ดูแลด้านการดีไซน์รูปหน้าของคนไข้ ยิ่งต้องนำหน้าเทรนไปล่วงหน้าก่อน ยุคปีค.ศ 1900 เป็นยุคของการมีรูปหน้าแบบกลม ดูอิ่มเอิบ มีน้ำมีนวล ที่เรียกว่า Beautiful round or U-shaped ใครมีรูปหน้าแบบนี้ก็จะเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปในยุคนั้น แก้มอิ่ม จมูกโด่ง คิ้วตาคม เป็นที่นิยมอยู่หลายสิบปีทีเดียว ยุคปีค.ศ 1990 เป็นยุคของการมีรูปหน้าแบบเหลี่ยม เริ่มได้รับความนิยม ที่เรียกว่า Beautiful Square shaped ใครมีรูปหน้าแบบนี้ก็จะเป็นที่ชื่นชอบถือว่าเป็นหน้าที่แปลกกว่าที่เคยคุ้นเคยมาก่อน ทำให้ก้าวมาสู่ดารา หรือเป็นที่หมายปองของคนทั่วไปได้ไม่ยาก ยุคปีค.ศ 2000 เป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง เพื่อต้อนรับศตวรรตที่ 20 โลกได้มีการเปลี่ยนแปลงไปทุกด้าน ตามการเติบโตของยุค IT นวัตกรรมใหม่ๆ ได้เกิดขึ้นทุกๆ ด้าน ไหนเลย เทรนหน้าก็เริ่มปรับกับอีกรอบ คราวนี้ หน้า V Shape มาแรงแซงทุกรูปแบบหน้าที่เคยมีมา ไม่ว่าทางโลกตะวันออกหรือตะวันตก ต่างต้องการหน้าวีเชฟ กันทั้งนั้น การปั้นหน้าวีเชฟ หลายท่านคงได้อ่านบทความกันมาบ้างแล้ว ไ่ม่ว่าจะปรับรูปหน้าวีเชฟ ด้วยการฉีดโบทอกซ์ลดกราม การร้อยไหม การฉีดเมโสแฟตสลายไขมันที่แก้ม หรือการผ่าตัดกราม เพื่อให้หน้าเรียวเล็ก จึงเกิดขึ้นอย่างมากมาย
ยุคปีค.ศ 2020 ที่จะก้าวเข้ามาเร็วๆ นี้ เริ่มมีกระแสในบางกลุ่มที่นอกจากจะทำให้หน้าวีเชฟ ที่เกร่อกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว หน้าที่มีขอบคางคมชัด โหนกแก้มชัด องค์ประกอบหน้าคมชัด ที่เรียกว่า L-Shaped Strong Jawline กำลังจะเป็นที่ดึงดูดสายตาของคนทั่วไปมากขึ้นทั้งในวงการนางแบบ นายแบบ หรือ นางงาม ซึ่งสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ฉีดเพิ่มกระชับขอบคาง บนล่าง ด้วยการฉีด Botulinum toxin type A หรือปรับสันคางให้เรียวคมด้วยฟิลเลอร์ กำจัดเหนียงใต้คางด้วยการยกกระชับด้วย HIFU ลดเหนียงด้วยการฉีดสลายไขมัน เพียงแค่นี้ท่านก็จะอินเทรนไปล้ำหน้าก่อนคนอื่นแล้ว
กรรมวิธีในการยกกระชับโดยเฉพาะใบหน้า ได้มีวิวัฒนาการกันมาเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ยุคแรกๆ ก็เป็นการผ่าตัดยกกระชับ ต่อมาก็มีการยกกระชับด้วยใช้คลื่น RF เช่น Thermage แล้วก็มาถึงกลุ่มการใช้คลื่นเสียง (Focused Ultrasound) เช่น HIFU เป็นต้น
การยกกระชับด้วยการใช้เส้นไหม ก็จัดเป็นการยกกระชับอีกรูปแบบหนึ่งที่มีการทำมาหลายปี โดยเริ่มแรก อาจจะเป็นการยกกระชับด้วย ไหม Aptos Threads เป็น ไหมที่มีฟันปลาเล็กๆ อยู่ตลอดเส้นเพื่อดึงรั้งเนื้อใต้ผิวหนังให้ตึงขึ้น จัดเป็นกลุ่มเส้นไหมที่ไม่ละลาย เข็มที่ใช้มีขนาดใหญ่ ขณะทำจะเจ็บมาก มีรอยฟกช้ำมากหลังทำ และมักจะเกิดปัญหาในระยะยาวได้ เช่น นานๆ ไปพบแง่งไหมอาจจะโผล่ออกมาจากผิวหนังให้เห็นต้องไปผ่าออก ต่อมาก็มี การยกกระชับด้วย ไหมทองคำ (Gold Thread) แม้ จะมีข้อดีที่เกิดรอยช้ำหลังทำน้อยกว่า แต่มีข้อเสียที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก และ ทำได้เฉพาะบางที่บางบริเวณ เช่น ใบหน้า คอ แขน เท่านั้น หลังทำต้องเลี่ยงการสัมผัสความร้อนหรือทำทรีทเม้นต์ต่างๆ ที่ใบหน้า การร้อยเส้นไหมทองคำถ้าผิดพลาด ต้องผ่าตัดเอาไหมออก และอาจจะมีปัญหาสำหรับผู้ที่แพ้โลหะ เป็นต้น
นอกจากนี้ถือว่า เส้นไหมชนิดเก่าทั้งสองแบบ ยังไม่ผ่าน อย. ของเมืองไทย จึงไม่ค่อยนิยมแพร่หลายมากนัก
ทางเลือกใหม่ ในการยกกระชับใบหน้า โดยไม่ต้องผ่าตัด
INNO K2 LIFTING
จากข้อจำกัดในอดีตของการยกกระชับผิวหน้า ทำได้เพียงการผ่าตัด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เวลาพักฟื้นนาน จึงไม่ได้รับความนิยมจวบจนกระทั่งเทคโนโลยีแห่งการย้อนวัยผิวถูกพัฒนาขึ้นอย่างมากจนได้มาซึ่งวิธีที่เรียกว่าการร้อยไหมที่ช่วยใบหน้าตึงกระชับปรับรูปหน้าเรียวพร้อมฟื้นฟูเซลล์ผิวเผยผิวใหม่เปล่งปลั่งแลดูอ่อนวัยด้วยเทคนิคนี้จึงย่นระยะเวลาจากแรมปีเหลือเพียง 30 นาทีสำหรับความเปลี่ยนแปลงที่หวังผลได้อย่างชัดเจน
ประสิทธิภาพของไหมสู่ศาสตร์ความงามย้อนวัย
ปัจจุบันแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามได้นำไหมที่เย็บบาดแผลมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าที่ไม่กระชับหย่อนคล้อยให้กลับมากระชับเต่งตึงเข้ารูป กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ส่งผลให้เกิดการสร้างคลอลาเจนรอบๆ เส้นไหม ซึ่งทิศทางการร้อยไหมที่ถักทอผสานกันเป็นร่างแห ช่วยทำให้เกิดแรงตึงแรงยกกระชับในชั้นผิวหนัง
หมดยุค...แห่งการรอคอยสู่ผลลัพธ์สัมผัสได้ใน 30 นาที
รูปแบบของเส้นไหม
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการร้อยไหมจากทั่วโลก ต่างค้นคว้าเทคนิคการร้อยไหมแบบใหม่ ด้วยการพัฒนาคุณสมบัติของเส้นไหม ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ให้ผลลัพธ์ยาวนานจาก 6 เดือน – 5 ปี โดยขึ้นกับประเภทของไหมที่นำมาใช้ โดยมีรูปแบบ ดังนี้
Mono Spiral
ไหม Mono เป็นไหมเรียบไม่มีเงี่ยงถูกนำมาใช้ในเรื่องยกกระชับผิวคงรูปหน้าและลำตัวได้ตามที่ต้องการซึ่งส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในเรื่องการเติมเต็มผิวในระดับหนึ่งและฟื้นฟูผิวให้ดูกระจ่างใส
Screw
ไหม Screw หรือไหมสปริงตัวไหมได้มีการบิดขึ้นรูปให้เป็นเกลียวมีลักษณะคล้ายกับสปริงที่ช่วยเพิ่มความเติมเต็มให้ผิวมากยิ่งขึ้นทำให้บริเวณร่องแก้มและรอยย่นหน้าผากดูตื้นขึ้นและใบหน้าดูอิ่มเอิบ
Cone
ไหมกรวยเป็นไหมที่มีกรวยร้อยอยู่เป็นช่วงๆโดยที่กรวยเป็นส่วนตรึงรั้งชั้นผิวไว้แต่อาจพบปัญหาว่ากรวยนั้นอาจละลายไม่หมดทำให้สามารถคลำเจอและอาจมองเห็นจากภายนอกว่าใบหน้ามีลักษณะตะปุ่มตะป่ำไม่เรียบเนียน
Cog or Barb
ไหม Cog หรือ ไหม Barbเป็นไหม่ที่มีเงี่ยงเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการยึดเกาะและดึงรั้งผิวหนังได้ดี ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้ไหมเส้นใหญ่มีเงี่ยงรอบทิศทางจึงทำสามรถบังคับทิศทางของการปรับรูปหน้าได้ตามที่ต้องการ เเละให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
ประวัติการใช้งานไหมในมนุษย์
กว่า 2,500ปี ในอินเดีย ยุคแรกเริ่มที่มีการใช้ไหมเพื่อเย็บบาดแผลโดยใช้ลำไส้สัตว์ตากแห้งของแกะ หรือวัวมาทำเป็นเส้นไหมซึ่งถือเป็นวัสดุจากธรรมชาติที่นำ มาใช้เพื่อร้อยเย็บปิดแผล ในยุคแรกเริ่มสืบเนื่องจนมาถึงปีค.ศ. 1930
ปี ค.ศ. 1930 ศัลยแพทย์ตกแต่งใช้ไหมเป็นวัสดุหลักเพื่อร้อยปิดแผลผ่าตัด
ปี ค.ศ. 1938 ริเริ่มใช้ ไนลอน (Nylon) เป็นวัสดุทดแทน ซึ่งยังไม่สามารถย่อยสลายได้
ปี ค.ศ. 1960 ถูกพัฒนาจนพบวัสดุที่ย่อยสลายได้เองอย่าง PDO (Polydioxanone)
คุณสมบัติของไหมไม่ละลาย
พ.ศ.2550 ไหม (Polypropylene)หรือ ไหมแอปทอส (Aptos) เป็นไหมที่ไม่ย่อยสลายในร่างกายมนุษย์แต่เมื่ออายุมากขึ้นผิวเราจะบางลง เงี่ยงของไหมอาจมีโอกาสทะลุผิวหนัง
ไหมทองคำ (Gold Tread) มีทองคำเป็นองค์ประกอบค่าใช้จ่ายจึงสูงมาก และไม่เหมาะกับผู้แพ้โลหะ การร้อยไหมทองคำ คือต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน ดูแลอย่างพิถีพิถัน
คุณสมบัติของไหมละลาย
1st Gen ไหม Aptos เลิกใช้กันแล้ว
2nd Gen รุ่นแรกๆ ไหม PGA (Polyglycolic Acid)แต่เนื่องจากไหมชนิดนี้มีรูพรุนมากทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายและละลายหายไปอย่างเร็วภายใน 3 เดือน
3rd Gen รุ่นปัจจุบัน ไหม PDO (Polydioxanone) ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ถูกนำมาใช้บนใบหน้า เพื่อกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน ทำให้เกิดการยกกระชับยาวนานโดยไม่ก่ออันตราย ข้างเคียงสลายภายใน 6 เดือน
4th Gen ไหมนวัตกรรมใหม่ PLLA (Poly L-Lactic acid) ไหมชนิดนี้เมื่อย่อยสลายแล้วจะได้อนุพันธุ์ของ Lactic Acid เส้นไหมชนิดนี้มีความเหนียวทนทานต่อแรงดึง ระยะย่อยสลาย นาน 2 ปี
5th Gen รุ่นที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ไหม PCL (Polycaprolactone) ถูกค้นพบเมื่อปีพ.ศ. 2560 มีลักษณะคล้ายยาง ยืดหยุ่นได้ดี มีอุณหภูมิหลอมที่ต่ำ ระยะย่อยสลายนาน 2 – 3 ปี
Thread Lifting นอกจากจะเห็นผลทันทีหลังทำแล้ว เนื่องจาก ไหมละลายมีกลไกการออกฤทธิ์หลังจากการร้อยไหม เข้าสู่ชั้นผิวหนัง คือ ไหมจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวเกิดการกระชับตึงขึ้นในทันทีที่ทำ และยังพบผลดีต่อเนื่องได้อีก คือ ขณะที่ไหมละลายอยู่ใต้ผิวหนัง จะกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Local microcirculation) ทำให้ผิวเกิดการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น ผิวหน้าจึงแลดูสดใสขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ และมีผลให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม จึงเกิดการยกกระชับมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป แม้กระทั่งหลังจากไหมสลายตัวหมด โครงสร้างคอลลาเจนที่เกิดขึ้นจะเป็นตัวค้ำจุนผิวดังโครงสร้างเส้นใย ทำให้กระชับและเต่งตึงต่อไป ผิวหน้าจะยิ่งดีขึ้น กระชับขึ้นเรื่อยๆ และได้ผลต่อเนื่องนานถึง 1-2 ปี ยิ่งทำซ้ำบ่อยครั้ง ผลยิ่งอยู่ได้นานขึ้น
ข้อดีของการทำ Thread Lifting หรือ Ultra V Lift
นอกจากจะราคาถูกกว่าเครื่องมือบางอย่างแล้ว ยังเห็นผลได้ทันที ชัดเจนหลังทำ และ ทำเพียงครั้งเดียว ไม่เจ็บปวด
ขั้นตอนในการทำ หลังจากทายาชาบริเวณที่ต้องการยกกระชับ นาน 30-45 นาที หลังจากนั้น แพทย์จะนำ เส้นไหม ที่อยู่ตรงปลายเข็มเข้าไปยึดตามเนื้อเยื่อผิว โดยจะใช้ วิธีการร้อยเรียงเส้นไหม แพทย์จะพิจารณาตามโครงหน้าของคนไข้เป็นหลัก ในเวลาเพียง 20-40 นาที ซึ่งหลังทำคนไข้จะเห็นผลทันทีว่าผิวหน้ายกกระชับ พร้อมทั้งยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวหน้าดูเนียบเรียบ กระจ่างใสมากขึ้นอีกด้วย หลังทำอาจพบรอยบวมช้ำโดยเฉพาะบริเวณใกล้ดวงตา ซึ่งจะดีขึ้นในเวลา 2-3 วัน จากนั้นใบหน้าจะเริ่มยกกระชับและริ้วรอยจะหายไปในเวลา 1 เดือน ผลจะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี และอาจทำช้ำได้อีกตามต้องการ
Thread Lifting หรือ Ultra V lift ทำแล้วดีอย่างไร
- กระตุ้น การสร้างคอลลาเจน ใต้ผิว ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง ผิวดูสุขภาพดีจากภายในและเปล่งประกายสู่ภายนอก รูขุมขนกระชับขึ้น ร่องแก้มตื้นขึ้น หน้าเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อยคืนความอ่อนเยาว์ แค่เพียงครั้งแรกก็เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ
- ช่วย ลดเลือนริ้วรอยได้ชัดเจนทันที ยกกระชับผิวได้ตรงจุด หมดปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณคอ ใบหน้า หางตา หัวคิ้ว หน้าผาก ริ้วรอยเล็กๆ ใต้ตา ที่โบทอกซ์หรือฟิลเลอร์ เลเซอร์ ไม่อาจจะแก้ไขได้หมด
- ปรับหน้าให้ได้รูปเรียวสวยตามต้องการ เป็น V-Shape ,Jaw Line คมชัดขึ้น ลดไขมัน รอยย่นใต้คางได้ผลทันที
- ช่วย ปรับรูปจมูกให้ได้รูปตามต้องการ เสริมการฉีดฟิลเลอร์ จึงทำให้ดูคมขึ้น และยังช่วยปรับปลายจมูกให้เชิดขึ้น ในขณะที่ฟิลเลอร์มีข้อจำกัดในการปรับปลายจมูกให้เชิดตามต้องการ
- ช่วยยกหางตาตก ปรับแนวรูปคิ้ว ยกมุมปากตก เสริมคางให้แหลม
- ช่วยให้การไหลเวียนพลังงานและโลหิตดีขึ้น ผิวแลดูสดชื่น เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล แลดูขาวกระจ่างใส
- ช่วยยกกระชับต้นแขน สะโพก หน้าท้องที่หย่อนคล้อย ให้กระชับมากขึ้น และได้ผลต่อเนื่องนานเป็นปี
- อยู่ได้ยาวนานกว่าการทำ Botox ,Filler มากสูงสุดถึง 2 ปี
- หลังจากการทำไม่ต้องพักฟื้นแต่สามารถแต่งหน้า ไปเรียนหรือทำงานได้ตามปกติทันที
- เห็นผลคล้ายการทำผ่าตัดยกกระชับใบหน้า แต่ไม่เจ็บและไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการผ่าตัด
- มันใจได้ว่าปลอดภัย ไหมสลายตัวหมด ไม่มีสารตกค้าง