ฉีดฟิลเลอร์ Juvederm Voluma
ฟิลเลอร์ Filler คืออะไร …. ?
เป็นคำรวมๆ ที่หมายถึง สารเติมเต็มปัจจุบันที่ใช้ในคลินิกความงามจะเป็นกลุ่ม HA filler ที่ปลอดภัยและสลายหมด 100% ในช่วง 18 -24 เดือน หลังฉีด หรือสามารถที่จะใช้ยาสลายได้ภายใน 24 ช.ม. ขอย้ำเลยว่าจะฉีดฟีลเลอร์ต้องดูดีๆ การฉีดฟิลเลอร์นั้น จุดประสงค์ก็เพื่อที่จะเติมเต็มในส่วนที่เป็นริ้วรอยร่องลึกตามจุดต่างๆ บนใบหน้า เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติ ช่วยทำให้ใบหน้าเต่งตึง มีน้ำมีนวล ริ้วรอยร่องลึกที่เคยเป็นจะดูตื้นและนูนขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเติมใยคอลลาเจนที่หายไปให้กลับมาดูอิ่มเอิบ และดูอ่อนกว่าวัยนั้นเอง
5 ข้อดี เลือกใช้ฟิลเลอร์แบบ Juvederm Voluma
1) ทางคลินิกเลือก Juvederm Voluma นั้นก็คือ ขึ้นรูปสวย ปั้นง่าย เวลาจับแล้วไม่เป็นก้อน เหมือนกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้จะทำให้คุณสวยขึ้น โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าคุณไปทำอะไรมา
2) หลังจากที่ทำการฉีดเสร็จแล้ว จะมีอาการบวมฟูน้อยกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป ด้วยเทคโลโลยีแบบใหม่ล่าสุด vy-cross technology ที่ทำให้คุณหมอฉีดฟิลเลอร์ได้สวย พอดี ไม่ต้องเผื่อความบวมฟูหลังฉีดฟิลเลอร์ไป
3) ระยะเวลาอยู่ได้นาน นานถึง 2 ปีเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของสาวๆ ทั้งหลาย ที่ไม่ต้องทำการฉีดฟิลเลอร์หลายๆ รอบ
4) คลินิกใช้ Master lifting technique ร่วมกับฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ทำให้ใช้ฟิลเลอร์ปริมาณน้อยมาก แต่ยกกระชับได้ทั้งหน้า โดยคุณหมอจะฉีดหลายๆ จุด เพื่อความเนียน เป็นธรรมชาติ และดูดีขึ้นทั้งหน้า
5) Juvederm Voluma มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และที่สำคัญสามารถย่อยสลายได้ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกายอย่างแน่นอน
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์นั้น จะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วมันใจ ให้เวลาน้อย สามารถยกกระชับหรือว่าปรับโครงสร้างใบหน้าให้ได้รูปหรือเติมจุดที่ดูสูงวัยที่ดูหย่อนคล้อยตามจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าและรูปร่างให้ดูอ่อนเยาว์ได้ตามต้องการ รวมทั้งยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อได้อีกด้วย
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์
ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์นั้น ถ้าหากฉีดในปริมาณมากๆ อย่างเช่นบริเวณสะโพกหรือว่าหน้าอก พอนานวันเข้าก็อาจส่งผลให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนได้ค่ะ บางรายมีอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่ว่าอาการเหล่านี้ก็จะหายไปได้เองภายใน 2 วัน
หลังทำ Filler ควรปฏิบัติอย่างไร?
- 48 ชั่วโมงแรกไม่ควรออกกำลังกายให้เหงื่อออกมากหรือไปตากแดดร้อนๆเพราะอาจทำให้เกิดรอยแดงมากขึ้นบริเวณที่ฉีด
- หลังฉีดทัดทีไม่ควรจับลูบคลำนวดหรือปั้นเองในบริเวณที่ฉีดเพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยาไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้
- หลังฉีดควรดื่มน้ำในปริมาณที่มากโดยเฉพาะ 4 วันแรก ของหลังฉีด Filler ประมาณ 8-46 แก้ว เพราะ Filler เป็นสารอุ้มน้ำ การดื่มน้ำมากๆ จะทำให้ Filler ที่ทำการเติมเต็มเข้าไปนั้นอยู่ได้นานขึ้น และช่วยให้น้ำจับกับโมเลกุล ของ Filler ที่ฉีด ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- งดทานยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดออก เช่น แอสไพริน Vitamin E, และใบแป๊ะก๊วย
- ภายใน 2 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นบริเวณที่ฉีด Filler งดเข้าอบไอน้ำ อบซาวน่า ทำ RF หรือ Ionto เพราะความร้อนเฉพาะจุดเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อ Filler ได้ใน 2 สัปดาห์แรก ความร้อนที่สามารถโดนได้คือ ไดร์เป่าผม และแสงแดดที่ไม่แรงจ้าเกินไปได้ตามปกติ
- หลังฉีดสามารถแต่งหน้า ทาแป้ง ทาครีมได้ตามปกติ เมื่อผ่านไป 1 สัปดาห์ สามารถทำ Treatment อื่นๆ ได้ตามปกติ (ยกเว้น Rf และ Ionto ต้องรอ 2 สัปดาห์)
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 2 วัน หลังการฉีด
- เลี่ยงการสูบบุหรี่, การดูดทั้งจากหลอดดูด, การจูบ กรณีที่ฉีดที่ริมฝีปาก 2 วันหลังการฉีด
หากเกิดอาการข้างเคียง ดังนี้ให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำแพทย์
- หลังฉีดอาจมีรอยเข็มแดงๆ เป็นจุดเล็กๆ ในบริเวณที่ฉีด จะหายเองภายใน 2-3 วัน และอาจเกิดรอยเขียวช้ำได้เล็กน้อย ซึ่งมักเจอในคนที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด, Aspirin,Alcohol หรือวิตามิน E อาหารเสริมบางชนิดเช่น Fish oil, Primrose โดยรอยเขียวช้ำจะค่อยๆ จางลงภายใน 1 สัปดาห์ ดังนั้นช่วงแรก สามารถทาแป้ง, Concealer หรือ รองพื้นปกปิดบริเวณที่เขียวช้ำ หรือรอยแดงจากเข็มไว้ก่อนได้
- หลังฉีดอาจคลำพบก้อนเล็กๆ แข็งเหมือนยางลบใต้ผิวหนังบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะละลายตัวและนิ่มเป็นเนื้อเดียวกันเองภายใน 1-2 เดือน
- อาจมีการปวดระบมบริเวณที่ฉีดได้เล็กน้อย สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการประคบเย็นหรือทานยาแก้ปวด ลดบวมได้
- หลังการฉีด 3-4 ชม. ถ้ามีการปวดตื้อๆ อยู่สามารถนวด และประคบอุ่นได้จะช่วยให้อาการดีขึ้น
- นัดพบแพทย์หลังการรักษา 7 วัน หรือ 4 สัปดาห์
- กรณีอาการปวดบวมแดงมากผิดปกติ หรือสีผิวหนังบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนไปเป็นสีซีด เป็นสีน้ำตาล หรือดำ (โดยไม่ใช่รอยเข็ม หรือรอยเขียวช้ำ) ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ ผู้ทำหัตถการหรือติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สาขา ตามเบอร์ที่ให้ไว้ทันที อย่ารอให้ถึงวันนัด
ข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์
ปัจจุบันมีสารที่มีลักษณะคล้ายกับฟิลเลอร์ออกมามากมาย ซึ่งไม่ได้มาตรฐาน อย. แถมยังเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นด้วย ดังนั้นควรเลือกใช้บริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะว่าเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาทีหลังจะสามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที อีกทั้งสถานให้บริการ รวมทั้งสารที่ใช้และอุปกรณ์เครื่องมือควรมีมาตรฐานที่เชื่อถือได้ เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้
Juvederm Filler ใช้ฉีดบริเวณใดบ้าง
1) ร่องน้ำตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องขมวดคิ้ว โหนกแก้ม
2) ริมฝีปากอิ่ม ริมฝีปากกระจับ รูปตัว M
ในปัจจุบันหากพูดถึงการทำศัลยกรรมปาก นอกจากเทรนด์ปากบาง ปากกระจับ จะเป็นที่นิยมสำหรับสาว ๆ ที่อยากมีริมฝีปากเล็ก ๆ บาง ๆ ดูน่ารัก แบบสาวเกาหลีแล้ว อีกเทรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันนั่นก็คือ เทรนด์ปากอวบอิ่ม ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสาวฝรั่งฝั่งตะวันตก เพราะทำแล้วริมฝีปากดูมีน้ำมีนวล ที่สำคัญช่วยเปลี่ยนลุคจากผู้หญิงธรรมดาให้กลายเป็นสาวแซ่บ ดูเซ็กซี่ขึ้นมาทันตาเลยทีเดียวก็ว่าได้
ข้อที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก
1.รู้ประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด
สารฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดริมฝีปากนั้นเป็นสารที่มาจากกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มและปรับขนาดโครงสร้างใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งได้แก่ Restylane, Perlane และ Juvederm ซึ่งเป็นสารเนื้อนุ่ม เหมาะสำหรับการฉีดริมฝีปาก จึงช่วย เติมเต็มริมฝีปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถฉีดซ้ำได้เมื่อสารเดิมเริ่มสลายตัวไป
2.รู้ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ ในขั้นตอนแรก แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณริมฝีปากก่อน แล้วทำการ ฉีดสารฟิลเลอร์เข้าไป โดยสารนี้จะเข้าไปเติมเต็มเซลล์ผิวริมฝีปาก รวมทั้งลดร่องลึก และริ้วรอยบนริมฝีปาก ทำให้ปากดูอวบอิ่มขึ้น ซึ่งจำนวนเข็มที่ฉีดก็ขึ้นอยู่กับ ความหนาของรูปปากที่สาว ๆ ต้องการ ประมาณ 4 -6 เข็มหรือ 1 ซีซีสำหรับริมฝีปากบนและอีก 1 ซีซีสำหรับริมฝีปากล่าง เพื่อรูปปากอวบอิ่มสวยงาม
3.ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน
สิ่งที่เราควรรู้คือ การฉีดฟิลเลอร์ที่ปากจะเห็นผลได้ทันทีเมื่อฉีดเสร็จ และจะยิ่งเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นหลังจากผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์ โดยฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm Voluma จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปีกว่าถึง 2 ปี ซึ่งขึ้นอยู่กับสารที่ใช้ฉีด ปริมาณที่ฉีด และฝีมือของแพทย์ที่ฉีด
4.ใช้เวลาพักฟื้นนานเท่าไร
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ที่ปากจะมีรอยเข็มที่ฉีดอยู่เป็นจุดแดง ๆ รอบริมฝีปาก และอาจ มีรอยฟกช้ำและอาการบวมบ้าง ซึ่งจะค่อย ๆ หายเองภายใน 1-2 สัปดาห์ จนกว่าริมฝีปากจะเข้ารูปสวยงาม ที่สำคัญคือ ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มร้อนๆ รวมถึงการทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การจูบ หรือการออกกำลัง เพราะจะทำให้ปาก เสียรูปทรงได้
5.รู้ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์
บางคนอาจมีความรู้สึกตึงและมีรอยบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่จะเริ่มหายไปเอง ภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากมีลิ่มเลือดจับตัวเป็นก้อนบริเวณรอยเข็ม หรือรู้สึกเจ็บปวด คล้ายอาการอักเสบหรือแพ้ (ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก) ควรรีบพบแพทย์ เพื่อทำการรักษาโดยด่วน
6.ฉีดฟิลเลอร์แล้วสามารถแก้ไขได้ไหม
สารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปจะใช้เวลาในการสลายตัวเอง แต่ในกรณี ที่ต้องการจะแก้ไขรูปปากก็สามารถทำได้โดยการฉีดสาร Hyaluronidase เพื่อให้สารฟิลเลอร์เดิมสลายตัวลงนั่นเอง
7.ข้อควรระวังสารต้องห้ามในการฉีดปาก
ห้ามใช้ซิลิโคนเหลวฉีดปากอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่ย่อยสลาย จึงทำให้เกิดอาการอักเสบ และอาจจับตัวเป็นก้อนแข็ง ทำให้ริมฝีปากเสียรูปทรงได้และผ่าตัดแก้ไขยาก ซึ่งก่อนเลือกคลินิกที่จะทำศัลยกรรมปาก จึงควรศึกษารายละเอียด และตรวจสอบสารที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ให้ดีๆ เพราะบางแห่งที่มีราคาถูกก็อาจนำสารที่ไม่เหมาะสมและไม่มีคุณภาพมาฉีดให้กับเราได้
3) ฉีดจมูกโด่ง ปลายหยดน้ำ
4) คางคม V shape
การฉีด HA filler (Juvederm Voluma) ในบริเวณคางเพื่อเติมเต็มให้ คางยาวขึ้นมีสัดส่วนที่เหมาะสมกับใบหน้ามากขึ้น ซึ่งหัตถการ นี้เห็นผลทันทีและจะชัดเจนในเวลา 1-2 สัปดาห์ เท่านั้นหน้าคนไข้จะยาวขึ้นเรียวขึ้นเป็นรูปตัว V (จะดูดีขึ้น ได้สัดส่วนมากขึ้น ต้องบอกความต้องการให้กับคุณหมอที่ฉีดให้เราแล้ว)
ฟิลเลอร์คาง VS เสริมคาง แบบไหนดีกว่ากัน?
เชื่อว่าหลายๆ คนอยากมีใบหน้าที่เรียวยาวได้รูป ในปัจจุบันทางเลือก สำหรับคนหน้ากลมหรือหน้ารูปเหลี่ยม คือ การปรับรูปบริเวณคางเพื่อดึงมิติของใบหน้า ให้ดูยาวมากยิ่งขึ้น ถ้าหากใครรู้สึกว่าใบหน้าดูไร้มิติ หน้าไม่พุ่ง การแก้ไขรูปคางอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการปรับรูปหน้าให้ดูมีมิติสวย และมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
การแก้ไขด้วยการผ่าตัดเสริมคางหรือการทำศัลยกรรมคาง มีข้อเสียเปรียบตรงที่คนไข้ที่ทำการรักษาจะต้องใช้ระยะเวลามากกว่าในการพักฟื้น หรืออาจจะมีรอยช้ำปรากฏให้เห็นหลังการทำศัลยกรรมอยู่ช่วงหนึ่งได้ ดังนั้นการทำศัลยกรรมจึงไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีระยะพักฟื้น ไม่อยากให้ผู้อื่นรู้ หรือถ้าเป็นคนที่มีแผลเป็นง่ายการทำศัลยกรรมก็อาจจะเป็นที่มาของการเกิดแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ได้เช่นกัน
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คาง ที่เหนือกว่าการทำศัลยกรรมคาง
คือ การบวมหรือระยะพักฟื้นนั่นเอง เพราะการฉีดฟิลเลอร์นั้นมีแค่แผลรูเข็มเล็กๆ ซึ่งเผลอๆ แล้วอาจจะเล็กกว่าแผลที่เรากดสิวเองด้วยซ้ำ เรียกได้ว่า ใบหน้าดูยาวขึ้นแบบที่ไม่มีใครรู้ว่าเราไปทำอะไรมา ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คางอีกข้อ ก็คือ การฉีดฟิลเลอร์สามารถปรับมุมได้ทั้ง 360 องศา ไม่ว่าจะด้านหน้าคางให้มีมิติพุ่งออกมาและยาวแหลมเป็น V shape
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma ราคา 1 ซีซี = 10,000 บาท