ริดสีดวงทวาร
"โรคริดสีดวงทวารรักษาได้ ในระยะแรกสามารถรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด"
อาการของโรคทางทวารหนัก
มีได้หลายแบบเช่น ปวดแสบทวารหนักเวลาถ่ายหรือเจ็บปวดตลอดเวลา การมีเลือดออกเป็นเลือดสดๆเวลาถ่าย บางคนเลือดออกบ่อยจนซีด การมีก้อนยื่นออกจากทวารหนักและอาการคันหรือเปื่อยรอบทวารหนัก รวมถึงอาการอื่นๆ ของระบบทางเดินอาหารเช่น อาการอึดอัด แน่นท้อง ท้องผูก ถ่ยอุจจาระลำบาก ถ่ายไม่สุด เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนมาก ผู้ป่วยมักเข้าใจว่าตนเองเป็นโรคริดสีดวงทวารจึงมักไม่ไปพบแพทย์ เนื่องจากอายหรือคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยจนกระทั่งมีอาการมากจึงไปพบแพทย์ โดยมักจะรักษาโรคด้วยตนเองเช่น ซื้อยาระบาย เหน็บยา หรือการพบหมอบ้านเพื่อฉีดยาหรือทายาสมุนไพร อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบติดเชื้อและการเน่าตายของเนื้อเยื่อบริเวณทวารหนัก กล้ามเนื้อหูรูดถูกทำลายและเกิดการตีบตันในเวลาต่อมา
ผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ด้วยความเข้าใจว่าเป็นริดสีดวง ทวารนั้น มีเพียงครึ่งเดียวที่มีสาเหตุจากริดสีดวงทวาร เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโรคทวารหนักอื่นๆ เช่น แผลฉีกขาดที่ทวารหนัก ฝีคัณฑสูตร โรคหูดหงอนไก่และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องวินิจฉัยแยกโรคจากมะเร็งลำไส้หรือทวารหนักให้ได้เพราะเป็นโรคที่อันตราย ถึงชีวิต ต้องรีบให้การรักษาโดยไม่ล่าช้า
สาเหตุของโรคริดสีดวงทวาร
การที่ท้องผูกเป็นประจำ หรือท้องเสียจนต้องเบ่งถ่ายหลายครั้ง ผู้ที่มีนิสัยที่ต้องเบ่งถ่ายนานๆเป็นประจำซึ่งมักเกิดในคนที่ชอบอ่าน หนังสือในขณะถ่ายอุจจาระ หรือในคนที่ชอบนอนหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆจนท้องอืดบ่อยและต้องเบ่ง ถ่ายวันละหลายครั้ง ทำให้เกิดแรงดันมากบริเวณทวารหนักจนกระทั่งกล้ามเนื้อเล็กๆที่ทำหน้าที่ยึด ริดสีดวงทวารกับผนังของทวารหนักฉีกขาด เป็นผลให้ริดสีดวงทวารยื่นออกจนบางครั้งออกมานอกทวารหนักจนผู้ป่วยรู้สึกได้ ว่ามีก้อนเนื้อโผล่ออกมาในระหว่างถ่ายอุจจาระ
ในระยะแรกก้อนที่ยื่นออกมาอาจกลับเข้าไปเอง แต่ถ้าเป็นมากอาจต้องใช้มือดันกลับ และเมื่อทิ้งไว้จนมีขนาดใหญ่ขึ้นมากก็จะโผล่ตลอดเวลา การที่ท้องผูกบ่อยๆและอุจจาระแข็งทำให้อุจจาระครูดกับหัวริดสีดวงเกิดเลือดออกได้
ระยะของโรคริดสีดวงทวาร
ริดสีดวงสามารถแบ่งตามตำแหน่งคือ เป็นชนิดภายในและภายนอก โดยริดสีดวงภายนอกมักไม่ก่อให้เกิดอาการใดๆ ยกเว้นอาจสร้างความรำคาญและอาการชื้นแฉะบริเวณทวารหนักได้
ส่วนริดสีดวงภายในมี 4 ระยะคือ
ระยะที่ 1 ริดสีดวงยังอยู่ภายในทวารหนัก มักมีอาการถ่ายเป็นเลือดสด และยังคลำไม่พบก้อนเนื้อเวลาถ่าย
ระยะที่ 2 ริดสีดวงอยู่ภายในทวารหนักแต่จะโผล่ออกมาเฉพาะเวลาถ่ายอุจจาระ จะมีอาการเลือดสดออกมาเช่นกันและคลำได้ก้อนเนื้อเวลาถ่าย
ระยะที่ 3 ริดสีดวงจะโผล่ออกมาเวลาถ่ายอุจจาระ จะคลำได้ก้อนเนื้อเวลาถ่ายและไม่กลับเข้าไปเองต้องใช้นิ้วดันกลับเข้าไป ถ้าเผลอไม่ได้ดันกลับหลังถ่ายเสร็จแล้วรีบลุกขึ้น ก็อาจทำให้เกิดลิ่มเลือดในหัวริดสีดวงคลำได้แข็งเป็นก้อนและเจ็บปวดอย่างมาก ได้
ระยะที่ 4 ริดสีดวงโผล่ออกมาที่ปากทวารตลอดเวลา ไม่สามารถดันกลับได้
อาการของผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวาร
1. ถ่ายเป็นเลือดสด เลือดที่ออกจากริดสีดวงทวารมักมีลักษณะเฉพาะคือ เป็นเลือดแดงสด หยดตามหลังอุจจาระโดยจะไม่ปนกับอุจจาระ หรือถ้าออกมากก็อาจพุ่งเป็นลำครั้งละมากๆได้ เลือดมักจะหยุดเองเมื่อถ่ายเสร็จ ถ้าหากเลือดที่ออกเป็นเลือดเก่าปนกับอุจจาระ เป็นลิ่มเลือด หรือสีอุจจาระผิดปกติเป็นสีดำแดง โดยเฉพาะถ้ามีมูกปนหรือมีกลิ่นคาว ให้สงสัยว่าอาจไม่ใช่โรคริดสีดวงทวาร ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
2. คลำได้ก้อนเนื้อโผล่ออกมาในขณะถ่าย อาจจะกลับเข้าไปเองหรือต้องใช้นิ้วดันกลับเข้าไปในทวารหนัก
3. อาการปวด โดยทั่วไปริดสีดวงไม่ทำให้เกิดอาการปวด เกิดเฉพาะในกรณีที่เกิดลิ่มเลือดในหัวริดสีดวงคลำได้แข็งเป็นก้อนและเจ็บปวด มากและตลอดเวลา โดยพบได้ทั้งริดสีดวงภายในและภายนอก
4. บางครั้งถ้ามีริดสีดวงหลายหัวและมีขนาดใหญ่จนเกิดอาการระคายเคือง รู้สึกแฉะหรือคันบริเวณทวารหนักได้
การรักษาโรคริดสีดวงทวาร
1. การฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวง (injection) โดยตรงทางกล้องที่ใส่เข้าไปทางทวารหนัก ใช้ในริดสีดวงระยะที่ 1 และ 2 ยาที่นิยมใช้รักษาเช่น Aethoxysklerol หรือ 5% Phenol in almond oil เป็นต้น ยาจะทำให้หัวริดสีดวงฝ่อลงในเวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ การรักษาวิธีนี้เป็นการรักษาที่ไม่เจ็บปวดและไม่ค่อยพบผลข้างเคียง ถ้าตำแหน่งที่ฉีดยาไม่ลึกหรือตำแหน่งต่ำจนเกินไป อย่างไรก็ตาม การฉีดยาอย่างไม่ระมัดระวังหรือบ่อยครั้งจนเกินไป อาจทำให้เกิดพังผืดรั้งจนหูรูดตีบแคบลงได้
2. การรัดหัว (rubber band ligation) ใช้ยางวงใส่ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า Baron gun เข้าไปรัดที่หัวเพื่อให้หัวริดสีดวงขาดเลือดมาเลี้ยง จะทิ้งยางไว้ให้หัวเน่าหลุดออกมาเองในเวลา 2-3 วัน ใช้สำหรับริดสีดวงในระยะแรกเช่นกัน การรัดหัวในตำแหน่งที่ต่ำเกินไปจนใกล้กับบริเวณหูรูดที่มีเส้นประสาทค่อน ข้างมากจะทำให้เกิดอาการปวดอย่างรุนแรงหลังการรัดได้
3. การรักษาด้วยเลเซอร์ Fotona หรือแสง infrared โดยการใช้เลเเซอร์ไฟเบอร์ขนาดเล็กยิงที่หัวริดสีดวงเพื่อให้เกิดความร้อนที่หัวริดสีดวง ทำให้หัวริดสีดวงฝ่อลง มีข้อดีคือ เจ็บน้อยกว่า ไม่มีเลือดออก และแผลหายเร็วกว่า
4. การผ่าตัด ด้วยจี้ไฟฟ้าหรือใช้เครื่องมือตัดต่อพิเศษ สำหรับริดสีดวงในระยะ 3 หรือ 4 ที่ใช้นื้วมือดันไม่กลับ
ฝีคัณฑสูตร
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่คลินิก โทร 074-238803 หรือ 08-74757788 ในเวลาเปิดบริการ